คุณสมบัติของน้ำผึ้ง

 

ความหมายของน้ำผึ้ง
    พจนานุกรมจะให้ความหมายของน้ำผึ้งว่า คือน้ำหวานที่ได้จากผึ้งโดยการเก็บน้ำหวานจากเกสรดอกไม้ น้ำผึ้งเกิดจากการที่ผึ้งโบยบินไปยังที่ต่างๆเพื่อเลือกสิ่งที่จะนำมาเป็นยอดอาหาร เกสรดอกไม้ที่เป็นน้ำหวานจากธรรามชาติจะถูกนำมาผสมแล้วใช้กรด Enzyme ในท้องผึ้งเปลี่ยนแปลงมาเป็นน้ำผึ้งจึงเรียกว่าเป็นยอดอาหารจากธรรมชาติที่แสนวิเศษ

 

น้ำผึ้งป่าและน้ำผึ้งเลี้ยงแตกต่างกันอย่างไร
    ปัจจุบันได้มีการนำผึ้งมาเลี้ยงเป็นอุตสาหกรรมจำนวนมากซึ่งทำให้น้ำผึ้งเป็นสิ่งที่หาได้ง่ายขึ้น หลายคนยังคงสงสัยว่าน้ำผึ้งป่า และ น้ำผึ้งเลี้ยงมีความแตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร

    น้ำผึ้งเลี้ยงและน้ำผึ้งป่า มีองค์ประกอบหลักที่เหมือนกัน คือน้ำ ฟรุกโทส และ กลูโคส นอกจากนี้น้ำผึ้งยังมีกรดอะมิโน และ แร่ธาตุอาหารต่างๆมากมาย เช่น เหล็ก ทองแดง แมงกานิส โพแทสเซียม และ แมกนีเซียม น้ำผึ้งป่าแท้นั้นจะได้จากการที่ผึ้งหาอาหารจากเกสาดอกไม้เท่านั้น ส่วนผึ้งเลี้ยงนอกจากอาหารจากเกสรดอกไม้ ผู้เลี้ยงจะต้องเสริมเกสรเทียมเมื่อเกิดการขาดแคลน ซึ่งจะทำให้แร่ธาตุต่างๆที่อยู่ในน้ำผึ้ง แตกต่างกันไป แร่ธาตุในน้ำผึ้งจะได้จากการที่รากของต้นไม้ดูดสารอาหารจากดินไปเลี้ยงส่วนต่างๆของลำต้นและใบ ตลอดจนกลั่นเป็นน้ำหวานทางดอก จากนั้นผึ้งจะนำน้ำหวานจากเกสรดอกไม้มาเป็นวัตถุดิบผลิตเป็นน้ำผึ้ง ดังนี้แร่ธาตุในน้ำผึ้งที่ได้จึงแตกต่างกันขึ้นอยู่กับแหล่งพืชพันธุ์และพื้นดิน ที่เป็นแหล่งของต้นไม้นั้นๆ ซึ่งผึ้งได้ไปเก็บน้ำหวานมากเป็นน้ำผึ้ง น้ำผึ้งที่ได้จากรังผึ้งในป่าใหญ่ จึงมีความสมบูรณ์และมีแร่ธาตุอาหารที่แตกต่างจากน้ำผึ้งเลี้ยง

 

น้ำผึ้งป่ามีลักษณะอย่างไร
    น้ำผึ้งป่า เมื่อใส่ไว้ในขวด ตั้งทิ้งไว้ซักพัก จะพบว่ามีเกสรดอกไม้ลอยอยู่ด้านบน ซึ่งเป็นลักษณะตามธรรมชาติของน้ำผึ้งป่า เนื่องจากผึ้งมีอาหารคือ เกสรดอกไม้อย่างสมบูรณ์ หรือที่เรียกว่า “ง้วน”
    ในบางครั้งเราจะพบว่าน้ำผึ้งป่าเกิดการตกผลึก ซึ่งการตกผลึกนั้นเป็นผลมาจากชนิดของสารให้ความหวานและสัดส่วนของน้ำหรือความชื้นในน้ำผึ้งดอกไม้ป่าตามธรรมขาติ มีปริมาณไม่เท่ากัน ซึ่งจะพบมากในดอกลิ้นจี่และในพืชตระกูลล้มลุกเช่น ต้นสาบเสือ ดอกทานตะวัน ซึ่งน้ำผึ้งจากพืชตระกูลล้มลุกนี้จะมีปัจจัยหลายอย่างทำให้ตกผลึกได้ง่ายได้ง่ายกว่า เมื่อเทียบกับน้ำผึ้งที่ได้จากไม้ยืนต้นเช่นไม้ป่า ลำไย,เงาะ,นุ่น ซึ่งจะไม่พบการตกผลึกซึ่งจะเป็นลักษณะตามธรรมชาติที่ไม่สามารถควบคุมได้
    นอกจากนี้น้ำผึ้งป่าจะมีแรงดันในตัวของน้ำผึ้งเอง ซึ่งถ้าเก็บไว้ในที่มีอากาศร้อนจัด น้ำผึ้งสามารถจะดันตัวเองไหลออกมาจากขวดได้ จนทำให้มีบางคนแปลกใจที่น้ำผึ้งหกออกมาได้ทั้งๆที่ตั้งไว้เฉยๆ เป็นลักษณะเฉพาะของน้ำผึ้งป่าจึงยากที่จะอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ได้หมด สีของน้ำผึ้งป่านั้นจะแตกต่างกัน ขึ้นอยู่กับดอกไม้,รัง,สถานที่,และเวลาที่เก็บน้ำผึ้งซึ่งเป็นลักษณะตามธรรมชาติ

 

ทำไมต้องเป็นน้ำผึ้งหลวงป่าเดือน 5
    หลายคนคงเคยได้ยินว่า น้ำผึ้งหลวงป่าเดือน 5 เป็นน้ำผึ้งที่มีคุณค่ามาก และมีกลิ่นที่หอมจากเกสรดอกไม้นานาพันธุ์ ทำไมจึงเป็นเช่นนั้น
    ผึ้งหลวงเป็นผึ้งพื้นเมืองของไทยอาศัยอยู่ในป่าใหญ่ และจะต้องเป็นแหล่งที่อถดมสมบูรณ์ด้วยพันธุ์ไม้นานชนิด ผึ้งหลวงจะหาเกสรดอกไม้นานชนิด รังของผึ้งหลวงจะมีขนาดใหญ่มากประมาณ 1-2 เมตร น้ำผึ้งใน 1 ลัง จะมีประมาณ 20-25 กิโลกรัม ผึ้งหลวงจะอพยพทิ้งรังทุกๆปีจึงไม่สามารถนำมาเลี้ยงในรังเลี้ยงได้ น้ำผึ้งจากผึ้งหลวงในเมืองไทยนิยมเก็บในเดือน 5 เนื่องจากเป็นเดือนที่น้ำผึ้งจะมีความชื้นต่ำที่สุดในรอบปี ทำให้น้ำผึ้งสามารถเก็บได้นานโดยไม่ต้องไปผ่านกระบวนการอบเพื่อไล่ความชื้น การที่น้ำผึ้งไม่ผ่านกระบวนการอบ หรือที่ภาษาอังกฤษเรียกว่า Row Honey จึงยังคงคุณค่าของเอนไซม์และแร่ธาตุอาหารตามธรรมชาติในน้ำผึ้งอย่างครบถ้วน